ผลิตภัณฑ์ประเภท Contact Cleaner เป็นน้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์โดยไม่ทำลายผิวพลาสติก แห้งสนิทไว ระเหยเร็ว ไม่ทิ้งคราบและสารตกค้าง เหมาะสำหรับใช้บำรุงรักษาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ
น้ำยาชนิดนี้มีกระบวนการเซ็ตตัวเร็วสามารถเช็ดล้างในพื้นที่ยากแก่การเข้าถึงและมีประสิทธิภาพสูงในด้านล้างคราบเขม่า ฝุ่น คราบน้ำมัน สารปนเปื้อนและสิ่งสกปรกอื่น ๆ ซึ่งขจัดออกยากได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สเปรย์น้ำยาทำความสะอาดใช้ในการขจัดอนุภาคสิ่งสกปรกจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ รวมทั้งการใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของยนตรกรรม เช่น ระบบการเผาไหม้ มอเตอร์ เทอร์โมสตัทหรือวาล์วน้ำและระบบอื่น ๆ ในรถยนต์ ถือเป็นน้ำยาทำความสะอาดที่มีประสิทธิภาพสูง ทำความสะอาดได้โดยไม่ต้องใช้น้ำ ไม่เพียงช่วยทำความสะอาดเท่านั้นแต่ยังปกป้องพื้นผิวไม่ให้คราบสกปรกกลับมาเกาะติดได้อีกเป็นเวลานาน
กระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์ประเภท Contact Cleaner เน้นการพัฒนาน้ำยาทำความสะอาดพื้นผิวให้ระเหยได้อย่างรวดเร็วและเมื่อแห้งแล้วจะไม่ทิ้งคราบและสารตกค้างใด ๆ บนชิ้นส่วนอุปกรณ์เหล่านั้น มีคุณสมบัติกำจัดคราบน้ำมัน ฝุ่นละอองและมีประสิทธิภาพการป้องกันไม่ให้เกิดออกไซด์ในผิวเหล็ก เนื่องจากการสะสมความชื้น สามารถป้องกันการเกิดสนิมกัดกร่อนบนผิวเหล็กได้ ขณะเดียวกันยังพัฒนาผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีคุณสมบัติในการสลายคราบน้ำมันโดยไม่กัดกร่อนผิวโลหะด้วย
โดยปกติการผลิตสเปรย์ชนิด Contact Cleaner จะมีสารเติมแต่งหลายชนิดที่เป็นสารตกค้างและเป็นอันตรายต่อสภาพแวดล้อม แต่ทางผู้ผลิตหลายรายพยายามคิดค้นพัฒนาสูตรเพื่อไม่ให้มีสารอันตรายเหล่านั้นผสมอยู่เพื่อลดผลกระทบเชิงลบที่ก่อมลภาวะต่าง ๆ มีประสิทธิภาพการทำงานที่ดี ทำความสะอาดอย่างเข้าถึงทุกซอกมุมและยังปลอดจากสารเคมีอันตรายที่ไม่ผ่านมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม
สารเคมีใน Contact Cleaner
สำหรับสารเคมีตัวทำละลายที่ใช้กันทั่วไปนั้นประกอบด้วย สารคลอโรฟลูโอคาร์บอน (Chlorofluorocarbons) คาร์บอนไดออกไซด์ โพรเพน (Propane) เอทานอล (Ethanol) และไอโซบิวเทน (Iso-butane) สารขับเหล่านี้อยู่ในรูปของเหลวภายใต้ความดันที่ทำให้เกิดก๊าซแรงดันขณะใช้งาน
ตัวทำละลายที่ใช้ในผลิตภัณฑ์นี้ประกอบด้วยสารละลายที่มีปริมาณของตัวทำละลายอินทรีย์หรือปิโตรเลียมและสารเคมีอื่น ๆ ทั้งนี้ผู้ผลิตจะเลือกเติมสูตรเคมีชนิดใดนั้นขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์การใช้งาน เช่น เพื่อใช้ทำความสะอาดแผงไฟฟ้าในรถยนต์ เครื่องจักรโรงพิมพ์ ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์หรือแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
ตัวทำละลายที่พบบ่อย ได้แก่ เฮกเซน (Hexane) เป็นตัวทำละลายอินทรีย์ที่พบบ่อยในอุตสาหกรรม มีลักษณะเป็นของเหลวใส ไม่มีสีและจุดเดือดต่ำ นอกจากนี้ยังมี ไอโซเอเทน (Isoethene) มีเทน (Methane) อะซิโตน (Acetone) ซึ่งเป็นสารตัวทำละลายอินทรีย์ระเหยง่าย รวมทั้ง ไตรคลอโรเอทธิลีน (Trichloroethylene) ซึ่งเป็นตัวทำละลายไขมัน น้ำมัน ยาง สีและน้ำมันได้เป็นอย่างดี
น้ำยาทำความสะอาดใช้ฉีดพ่นโดยตรงบนพื้นผิว ทิ้งไว้ให้แห้งสนิท สามารถฉีดพ่นซ้ำได้อีกตามความจำเป็น ในกระบวนการผลิตโดยทั่วไปจะใช้ตัวทำละลายมากกว่า 1 ชนิด โดยเน้นการพัฒนาน้ำยาไม่ให้ติดไฟด้วยเพื่อป้องกันความเสียหายจากการทำความสะอาดพลาสติกและฉีดพ่นลงบนเครื่องมือ เครื่องจักร แผงวงจร และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ โดยน้ำยาใช้งานได้ดีไม่ทำให้ระบบของเครื่องเกิดความเสียหาย
นอกจากนี้ภาคอุตสาหกรรมยังมีการพัฒนาตัวทำละลายชนิดใหม่ ๆ เพื่อให้ผ่านมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมของสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อม (EPA) ในภายหลังจึงมีตัวทำละลายทางเลือกอื่นมากมายที่ช่วยลดความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมแต่ไม่ลดทอนประสิทธิภาพการขจัดคราบสกปรกแต่อย่างใด โดยตัวทำละลายจะระเหยทั้งในรูปแบบก๊าซหรือจะกลายเป็นก๊าซ
ข้อควรระวังเมื่อใช้สเปรย์ล้างหน้าคอนแทค
ปัจจุบันผู้ประกอบการหลายรายทั่วโลกคิดค้นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้นผิวออกมาจำหน่ายในท้องตลาดหลายยี่ห้อ หลายสูตร น้ำยาทำความสะอาดเหล่านี้นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งในโรงงานอุตสาหกรรมและในครัวเรือนทั่วไป แต่จัดเป็นวัตถุอันตรายตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย โดยเฉพาะสารระเหยของกรดเคมีไม่ปลอดภัย หากมนุษย์หรือสัตว์สูดดมเข้าไปทำให้แน่นหน้าอกหายใจลำบากหรือรุนแรงถึงขั้นทำลายระบบทางเดินหายใจ หากสัมผัสผิวหนังอาจเกิดอาการระคายเคืองโดยเฉพาะเด็กเล็กและผู้ที่แพ้สารเคมีง่าย
สารเคมีที่ใช้ปัจจุบันมีความปลอดภัยมากขึ้น เพื่อให้ สอดคล้องกับนโยบายของสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสารเคมีที่เป็นส่วนผสมอันตรายส่งผลเสียโดยตรงต่อพืชจากไอระเหยในอากาศ หากหกรั่วไหลลงไปในดินทั้งโดยจงใจหรือบังเอิญ จะก่อให้เกิดความเป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิต สารพิษตกค้างอาจก่อให้เกิดผลกระทบในระยะยาวในสภาพแวดล้อมทางน้ำ เพราะมีฤทธิ์ทำลายจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ในบ่อบำบัดน้ำเสีย ทำให้เกิดน้ำเน่าเสีย เกิดมลพิษในระบบน้ำและอากาศ เนื่องจากมีผู้นิยมใช้งานจำนวนมากไอระเหยของเคมีทำให้เกิดภาวะโลกร้อนเร็วขึ้นอีกด้วย ดังนั้นบรรดาสายการผลิตของโรงงานที่ได้มาตรฐานล้วนมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำยาทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของสารเคมีอันตรายให้มีพิษน้อยที่สุดเท่าเป็นไปได้เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพ สิ่งแวดล้อมหรือความปลอดภัยด้านอื่น ๆ รวมถึงหลีกเลี่ยงไปใช้สารเคมีที่ใกล้เคียงกันซึ่งมีผลกระทบน้อยกว่า
การจัดเก็บคอนแทคคลีนเนอร์
นอกเหนือจากขั้นตอนการผลิตที่มีสารเคมีหลายประเภทที่ต้องเอาใจใส่เป็นพิเศษแล้ว เป็นที่ทราบกันว่ามีสารเคมีหลายชนิดเป็นส่วนผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์ประเภท Contact Cleaner จึงต้องป้องกันสารเคมีอื่น ๆ จะทำปฏิกิริยากันให้เกิดอันตรายขึ้น โดยมีการจัดเก็บสารเคมีในสายการผลิตอย่างถูกวิธีรวมทั้งจัดสารเคมีที่ดับเพลิงสำหรับแต่ละชนิดไว้เพื่อความสะดวกในการดับเพลิงที่เกิดจากสารเคมีแต่ละตัวในขณะเกิดไฟไหม้ช่วยชะลอการลุกลามของไฟ
สถานที่เก็บสารเคมีควรเป็นสถานที่ปิดมิดชิด ฝาผนังควรทำด้วยสารทนไฟและปิดล็อคได้ ส่วนสถานที่เก็บหรือผลิตสารเคมีควรมีอากาศเย็นและแห้ง มีระบบถ่ายเทอากาศดี แสงแดดส่องไม่ถึง ภาชนะที่ใส่ทนทานต่อความดัน การสึกกร่อนและแรงกระแทก มีการจัดเรียงอย่างมีระบบ การรักษาความสะอาดและหมั่นตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งถือเป็นขั้นตอนสำคัญของระบบการผลิตที่ดี มีความปลอดภัยและมีคุณภาพได้มาตรฐานทุกขั้นตอน